ฝีดาษลิง Monkeypox คืออะไร
ฝีดาษลิง Monkeypox เป็นที่รู้จักกันมาเนิ่นนานแล้วเมื่อหลานสิบปีที่แล้ว โดยมีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศคองโกในสมัยก่อน โดยหลักๆ แล้วจะมีอยู่ 2 สายพันธุ์ โดยโรคนี้จะจัดอยู่ในกลุ่มเชื้อไวรัสกลุ่ม Poxviridae หรือ orthopoxvirus สายพันธุ์ที่ 1 Congo Basin และสายพันธุ์ 2 West African
สายพันธุ์ Congo Basin จะมีความรุนแรงมากกว่า เนื่องจากมีการระบาดจากบริเวณคองโกเป็นประเทศแรกๆ จึงระบาดแถวแอฟริกา เช่น กานา, ไอวอรี่โคสต์, ซูดาน, West Africa และผู้ที่ไปประเทศแถวๆ นั้นก็อาจติดเชื้อได้
ปัจจุบันพบได้ในหลายประเทศเช่น สเปน อิตาลี ฝรั่งเศส โปรตุเกส อังกฤษ ล่าสุดพบ 1 เคส ที่บอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา ตรวจพบว่าเคยเดินทางไปแคนาดามาก่อน
การแพร่ระบาดของฝีดาษลิง
โรคนี้แพร่ระบาดในลิงหลายๆ สายพันธุ์เลยได้ชื่อว่าโรคฝีดาษลิง แต่สัตว์อื่นๆ ก็สามารถพบในสัตว์ชนิดอื่น เช่น หนู กระรอก กระต่าย กระแต เป็นต้น จะแพร่เชื้อในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็ก
สามารถแพร่เชื้อได้ง่าย ทางผิวหนัง การหายใจ สารคัดหลั่ง เช่น น้ำลาย ไอ จาม น้ำตา เหงื่อ droplet จากเสื้อผ้าของใช้ที่มีการสัมผัส (ติดง่ายกว่า COVID-19) หากเราไปสัมผัสเชื้อ หากมีแผลที่แม้เราจะมองไม่เห็น เชื้อก็ยังสามารถแพร่กระจายเข้าสู่แผลได้ เพราะเชื้อนี้สามารถติดทางผิวหนังได้
ฝีดาษลิงมีความเกี่ยวข้องกับฝีดาษคน (smallpox) ซึ่งขณะนี้ได้สูญพันธุ์ไปแล้ว แต่ยังคงมีเก็บตัวอย่างไว้เผื่อหากมีการก่อการร้าย เราก็สามารถนำเอามาทำเป็นวัคซีนป้องกันได้
ฝีดาษ (smallpox) มีความสำคัญมากเพราะสมัยนั้น ฆ่าคนไปเป็นจำนวนมาก เพราะไม่มีทางรักษาในสมัยก่อน แต่ Edward Jenner สังเกตุว่าคนเลี้ยงวัวที่ทำงานกับวัวที่มีโรคฝีดาษวัว คนเหล่านี้จะไม่ค่อยเป็นอะไรเมื่อเกิดฝีดาษระบาด จึงเป็นที่มาของการสร้างวัคซีนตัวแรกของโลก และในขณะนั้นก็มีคนต่อต้าน แต่ Edward Jenner ก็พิสูจน์หลายๆ ครั้งว่าสามารถช่วยทำให้ไม่ป่วยหนักด้วยโรคฝีดาษได้ และสุดท้ายก็มีคนยอมรับคุณ Edward Jenner
อาการของฝีดาษลิง
หลังจากที่คนได้ไปสัมผัสกับสัตว์ที่มีเชื้อที่กล่าวมาข้างต้น ภายในประมาณ 2 สัปดาห์ จะเริ่มมีไข้สูง ปวดหัวมากๆ และมีอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย และหลังจากนั้นประมาณ 3-4 วันจะเริ่มมีต่อมน้ำเหลืองโตตามร่างกายบริเวณต่างๆ เช่นที่คอ เป็นก้อนๆ ทั้งสองข้าง ใต้คาง หน้าหู ท้ายทอย บางคนอาจจะเจอที่รักแร้ ขาหนีบ หรือว่าใต้ข้อศอก ก็สามารถเจอได้เช่นกัน
หลังจากนั้นจะเริ่มมีอาการผื่นขึ้น จะเริ่มขึ้นที่บริเวณหน้ากับบริเวณตัวก่อน และจะค่อยๆ ลามไปทั้งตัวโดยทั่วไปอาการของฝีดาษลิงจะแสดงอาการอยู่ที่ประมาณ 2-4 สัปดาห์ และก็หายเอง แต่อย่างไรก็ตามมันก็ไม่แน่นอนเสมอไปที่อาการนั้นจะหายไปเอง
วิธีที่ใช้ในการรักษา
อาการจะแสดง 2-4 สัปดาห์ และมักจะหายเองได้ แต่ไม่เสมอไป
– จึงเป็นที่มาของการพัฒนายารักษาซึ่งพัฒนามาจากยา smallpox ชื่อ tecovirimat (ST-246) มีทั้งแบบกิน และ ฉีด เพราะคนไข้ที่มีอาการรุนแรง เยื่อบุกระพุ้งแก้มอาจมีแผล ทำให้กลืนลำบาก จึงำให้มียาแบบฉีด ขึ้นมา
– นอกจากนี้ยังอาจมียาที่ใช้ได้ผล ชื่อ Cidofovir เป็นยาฉีด แต่มีผลข้างเคียงค่อนข้างเยอะ อาจทำให้ไตวายได้ จะต้องให้ร่วมกับยาตัวอื่น
– ภูมิต้านทานสำเร็จรูป หรือ monkeypox immuoglobulin จะต้องขอมาจาก CDC อเมริกา
– จะรักษาแบบประคับประคอง
ที่มา https://www.youtube.com/watch?v=5DQAknwiIAw