ร้านกาแฟ,  อยากรู้

วิธีต้มกาแฟสดด้วยหม้อต้มโมก้าพอท (Moka pot)

ฉบับมือใหม่ ใครๆ ก็ทำได้ ช่วงนี้มีเพื่อน ๆ พี่ๆ สั่งหม้อต้มและชุดอุปกรณ์กันไปหลายคน บางคนเป็นหม้อต้มใบแรก ยังใช้งานไม่ถูก ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง วันนี้ผมจะอธิบายให้ฟังนะครับ

อ๊อฟ วีรวุฒิ ศรีกัลยานิวาท

1. ใส่น้ำลงไปใต้วาล์ว จะใส่ได้ 5 ออนซ์ หรือ 150 มล.

จะใช้น้ำร้อนหรือน้ำอุณหภูมิปกติก็ได้ เพียงแต่น้ำร้อนจะใช้เวลาเร็วกว่าประมาณ 1 นาที ครับ

2. บดเมล็ดกาแฟให้ได้ความละเอียดที่เหมาะสม

ไม่หยาบเป็นเกล็ด และไม่ละเอียดจนเป็นแป้ง

หากใช้เครื่องบดไฟฟ้า N600 จะใช้ประมาณเบอร์ 2-3

หากใช้บดมือ แนะนำให้ใช้เฟืองเหล็ก จะบดผงกาแฟได้ละเอียดและรวดเร็วกว่าเฟืองเซรามิกนะครับ

3. ใส่ผงกาแฟลงถ้วยกรอง สำหรับหม้อจีน 3 คัพ จะใส่ได้ประมาณ 14-15 กรัม หากผงกาแฟละเอียดเหมาะสมดีแล้ว ไม่จำเป็นต้องกดให้แน่นก็ได้ครับ



อ๊อฟ วีรวุฒิ ศรีกัลยานิวาท

เทคนิคของผมคือ . . .

ใส่ผงกาแฟเต็มถ้วยกรอง แล้วเคาะกับพื้นโต๊ะเพื่อให้ผงกาแฟเซ็ทตัว ผงกาแฟจะยุบลงไป เติมให้เต็ม ทำซ้ำแบบเดิมอีกสักครั้ง รอบสุดท้ายเติมให้เต็ม ปาดให้เรียบ ไม่ได้กดให้แน่นครับ

– ผงกาแฟที่ละเอียดเกินไป จะทำให้น้ำร้อนไหลผ่านแรงดันขึ้นมายาก ผงกาแฟได้รับความร้อนนานเกินไป ทำให้มีกลิ่นและรสขมไหม้

– ผงกาแฟหยาบเกินไป น้ำร้อนไหลผ่านผงกาแฟได้ไวเกินไป ทำให้น้ำกาแฟพุ่งกระเด็น และรสชาติที่ได้ก็จะจืดจางบางใส ขาดความเข้มข้น

4. เปิดเตาไฟฟ้าที่เบอร์ 5 หากใช้น้ำร้อน รอประมาณ 3 นาที น้ำกาแฟหยดแรกจะเริ่มไหลออกมา

หากใช้เตาแก๊สกระป๋องจะใช้เวลาเร็วกว่าเตาไฟฟ้า

หม้อต้มที่แรงดันปกติ น้ำกาแฟจะไหลสวยตั้งแต่หยดแรกเลยนะครับ

*หากเป็นหม้อต้มที่แรงดันผิดปกติ จะใช้เวลารอน้ำกาแฟหยดแรกเกิน 5 นาที และจะมีควันสีขาวลอยฟุ้งออกมาจำนวนมาก กลิ่นของกาแฟจะเหม็นไหม้ หากฝืนทำต่อแล้วนำมาชงชิม รสชาติกาแฟที่ได้จะขมไหม้ ไม่เหมาะสำหรับนำมาชงขายนะครับ

5. เมื่อได้น้ำกาแฟเต็มก้นหม้อ เบาไฟเหลือเบอร์ 3

6. เมื่อได้น้ำกาแฟประมาณครึ่งหม้อ ปิดไฟได้เลยสำหรับเตาไฟฟ้า เพราะยังมีความร้อนสะสมอยู่บนแผ่นความร้อน

7. สังเกตการไหลของน้ำกาแฟ เมื่อเริ่มไหลแรงขึ้น ยกหม้อต้มขึ้นจากเตา จะทำให้ไม่ได้รับความร้อนมากเกินไป

8. เมื่อได้น้ำกาแฟระดับใต้ปากเท ให้เทน้ำกาแฟลงแก้วตวง จะได้ปริมาณน้ำกาแฟ 4 ออนซ์ หรือประมาณ 100-120 มล.

กระบวนการรอน้ำกาแฟออกมาจนครบ 4 ออนซ์

จะใช้เวลารวมกันไม่เกิน 4 นาที นะครับ

ฟองฟู่สีทอง หรือที่หลายๆคนเรียกว่าครีม่า เป็นผลลัพธ์ที่จะบอกเราว่า กระบวนการตั้งแต่ต้นจนจบ ถูกต้อง ครบถ้วนสมบูรณ์ คือ

– หม้อต้มดี แรงดันปกติ ไม่รั่วซึม

– เมล็ดกาแฟสดใหม่ ไม่คั่วค้างไว้นานจนเกินไป

– ความละเอียดของผงกาแฟที่เหมาะสม

– ปริมาณผงกาแฟที่ใส่ลงในถ้วยกรองที่พอดี

– การควบคุมไฟให้ความร้อนอย่างสมดุลย์

เมื่อกระบวนการข้างต้นครบถ้วน จึงเกิดฟองฟู่สีทองบนน้ำกาแฟ แต่ไม่นานก็จะค่อยๆจางหายไป

ปล. อันดับแรกสุด ต้องเป็นหม้อต้มที่ดี แรงดันปกติ ไม่รั่วซึม และเมื่อใช้กระดาษกรองก็จะยิ่งทำให้ได้น้ำกาแฟที่มีฟองฟู่สีทอง สวยงาม น่าดื่ม มากยิ่งขึ้น

ที่มา ::: https://www.facebook.com/groups/976659582858800/permalink/1344614216063333/

รูปภาพและบทความ จาก อ๊อฟ วีรวุฒิ ศรีกัลยานิวาท

Leave a Reply